วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กลอน วันปีใหม่ 2555



ใช้หัวใจ เรียงร้อย ตัวอักษร
เป็นบทกลอน ต้อนรับ วันปีใหม่
ทุกวรรคตอน ผสาน ความรู้สึกจากใจ
เป็นของขวัญ วันปีใหม่ มอบให้แด่ทุกคน
 
กลอน วันปีใหม่ 2555

ปล่อย

ขอหลบมาทบทวนคืนวันเก่าเก่า

ว่าเป็นแค่เพียงเงา. .หรือเราแค่พร่ำเพ้อ

หวั่นหวั่นไหวไหวในวันที่ได้พบเจอ

ก่อนที่ฉันและเธอจะตกลงเป็นแฟนกัน

เดียวดายทุกครั้งหรือเปล่าเวลาเราอยู่ใกล้

ความรักคือความรักที่มีให้หรือแค่ในความฝัน

เมื่อทางที่โรยดอกไม้เริ่มแห้งตายลงทุกวัน

ก็จึงควรรีบจบความสัมพันธ์เพื่อจากลา

. . .ดีกว่าฝืนต่อไปให้ยิ่งเจ็บ. . .

จนยากเกินจะเก็บความทรงจำในวันหน้า

ขอเก็บเธอที่แสนดีไว้ในนี้ในกล่องกาลเวลา

ให้เธอเป็นเจ้าหญิงในราวฟ้าเพียงทุกครั้งที่หลับตา. .ก็พอ
ปล่อย

อดีตแห่ง"รัก"

ในอดีต...ไม่เคยรู้เรื่องความรัก
ไม่รู้ว่าได้ประจักษ์มันเมื่อไร
แต่ความรักก็เปี่ยมล้นในหัวใจ
ตั้งแต่ที่ฉันได้พบกับเธอ

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

นี่นะหรือ...ความรัก

นี่น่ะหรือรักเจ้าเฝ้าถนอม
เราออมชอมกันได้ไหมอย่าหลีกหนี
จะลาร้างห่างไปคงไม่ดี
เมื่อใจนี้มิหมดรักกันและกัน

หน้างอเง้าเราก็ง้อด้วยใจภักดิ์
ใช่เล่นรักหลอกลิงให้ไหวหวั่น
ใจทั้งใจมีเพียงเธอไม่เคยปัน
ทั้งนี้นั้นมางอนง้อไม่ท้อใจ
นี่นะหรือ...ความรัก

วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ดอกไม้จะร่วง



ดอกไม้จะร่วง
งามแสนงาม  เจ้างาม สะพรั่งจิต
พี่เพ่งพิศ เนื้อตัวกาย น้องนางเอ๋ย
ดั่งดอกไม้  แรกแย้มสวย  กลิ่นหอมเชย
ดอกไม้เอย  อย่าหลงเลย รูปกลิ่นไอ

ดอกไม้สวย  ย่อมเชิดชู  คู่เคียงต้น
ใครหมายยล  เด็ดเอื้อมดม  คงจางได้
พี่หวงห่วง  ไม่อยากให้  โรยร่วงไป
ความงามนั้น  จะอยู่ไซร์  หากไร้ดอก

เจ้าน้องนาง  สดับฟัง    พี่สักนิด
ให้ตรองคิด   สิ่งรอบข้าง  ล้วนหลอนหลอก
กายมายา  ใช่เที่ยงแท้  แค่เปลือกนอก
หากสิ้นหวาน  ความขมครอก  พี่บอกไว้

ดอกไม้เอ๋ย  เจ้าจะร่วง  ร่วงตามกาล
ขอเจ้างาม   คู่เคียงต้น   ประดับใบ
อยู่หลอกล่อ  เหล่าแมลง  ให้ฝันใฝ่
ความงามไซร้  ใครก็หมาย  มาอิงเอย

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หนาวๆๆๆๆ

กรุงเทพฯหนาวคราวนี้มีให้เห็น
มันหนาวเย็นเด่นชัดลมพัดหนาว
เหมือนความหลังครั้งก่อนย้อนเรื่องราว
คิดถึงคราวก่อนนั้นวันสวยงาม

มีของขวัญหลากสีมีเพื่อนเพื่อน
มีลากเลื่อนซานต้าน่าเกรงขาม
มีเสียงเพลงแสนสนุกทุกโมงยาม
มีแต่ความหรรษาเฮฮากัน

มีเมฆหมอกถักทอล้อลมหนาว
มีดวงดาวพราวพร่างดังภาพฝัน
มีรอยยิ้มเริงรื่นทั้งคืนวัน
มีเธอฉันเกี่ยวแขนแสนสุขใจ

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แค่ผูกพัน .. หรือฉันยังรักเธอ

...ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ทำไมในหัวใจยังคงเฝ้าถาม
ในห้วงคิดยังยึดติดทุกข้อความ
เป็นดั่งหนามที่ทิ่มแทงหัวใจ...

...หรือเป็นเพราะว่ายังมีเธอ
หรือเป็นฉันที่เฝ้าฝันละเมอใช่หรือไม่
ทำไมนะยังคงไม่ลืมคนที่จากไป
หรือจะเก็บเอาไว้ให้เป็น...ความทรงจำ...

วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กาลครั้งหนึ่ง...ในฝัน

กาลครั้งหนึ่งในฝัน
คืนวันหวานที่หวั่นไหว
ราตรีดาวกระจ่างประดับใจ
จันทราไซร้ยังแย้มยิ้มให้ได้ยล

...กาลครึ่งหนึ่งในยามตื่น
น้ำตารื้นดั่งสายฝน
หรือเพราะฟ้าเห็นควรบันดาลดล
คืนรักล้นนั้นเพียงแค่ฝันไป...
กาลครั้งหนึ่ง...ในฝัน

วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ความบังเอิญ

เพราะความบังเอิญทำเราให้พบกัน
ทำให้ฉันหลงรักเธออย่างวันนี้
ความบังเอิญก็พรากเราในราตรี
ที่คนดีของเธอดันกลับมา

บังเอิญวันนั้นเธอถูกทิ้ง
บังเอิญเรื่องจริงฉันไขว่คว้า
บังเอิญมันเหมาะเจาะจนมีน้ำตา
ฉันเป็นตัวคั่นเวลา เพียงเพราะ ค ว า ม บั ง เ อิ ญ
ความบังเอิญ

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กลอนเศร้า (ไม่รู้จะตั้งชื่อไรดี)

...หวานน้ำคำพร่ำพรอดหยอดคำหวาน
เหมือนน้ำตาลชื่นลิ้นสิ้นก็หาย
พอหมดเยื่อมิเหลือใยใจละลาย
น้ำตาลกลายเป็นยาขมระทมทรวง...

...พอเริ่มรักมักซ่านหว่านเสน่ห์
ร้อยเล่มเล่ห์เห่กล่อมตะล่อมห่วง
พอสิ้นรักหักล้างบนทางลวง
ก็ตัดยวงสิ้นซากรากหลุดพัง...

...พอแล้วสิ้นจนชินชามาฝากรัก
สุดช้ำนักมักจบมิสบหวัง
พอหมดสุขทุกข์ถาโถมโรมประดัง
มิเหมือนครั้งยังฝากรักสมัครใจ...
 

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ฝันกับจริง..สิ่งที่ต่าง

...วาดความฝันอันสวยหรูดูยิ่งใหญ่
วาดวิมานแสนอำไพในฟากฝัน
วาดชีวิตลิขิตถ้อยเป็นร้อยพัน
มายานั้นมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง...

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ฉันไม่เป็นไร

ฉันก็ไม่ได้มีเธอมาตั้งแต่แรก

วันนี้จึงไม่แปลกหากไม่มีอีกครั้ง

ฉันมันเคยชินกับชีวิตลำพัง

ไม่ได้คิดหวังให้ใครมาดูแล


ฉันจึงไม่เจ็บเท่าไหร่

แม้เธอจะทิ้งไปก็ตามแต่

จะไม่ให้ใครเห็นความอ่อนแอ

ถึงจะพ่ายแพ้จะไม่มีแม้สักหนดน้ำตา

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ปลอบขวัญเจ้า....

เพราะเธอ เหนื่อยล้ามาแต่ละวัน
แม้คนข้างกัน  ใครคนนั้น กลับไม่มี
เดินทางเปล่าเปลี่ยวตามแต่ละวิถี
เหงาใจทุกที ณ  ที่ตรงนี้ไม่มีใคร

หลายครั้งเธอ หลบมุมเหงา
ร้อยเรื่องราว พาใจให้หวั่นไหว
ทุกครั้งเธออ่อนล้า  มากมายคำเสียใจ
แต่ฉันทำอะไรไม่ได้  นอกจากมองเธอห่างๆ

อย่าถามว่าฉันเป็นใคร...
ถึงรู้เรื่องราวมากมาย เหมือนดั่งคนเคียงข้าง
ฉันก็หนึ่งในตัวเธอ  ที่ไม่เคยทิ้งใจให้ห่าง
ทุกเสี้ยวนาที คอยอยู่ข้างๆ เธอเสมอ

อย่าคิดว่าชีวิตช่างโหดร้าย
ถูกเขาทำลายจิตใจ  แทบสิ้นความฝันเพ้อ
ปวดร้าวในหนทาง สู่รายทางที่พร่าเบลอ
เพราะรู้เสมอ  เธอเหน็บหนาว.... ท่ามกลางผู้คน

หลับเธอขวัญเจ้า
ลืมเรื่องราว  ที่ปวดร้าว วุ่นวายสับสน
ฉันจะกล่อมเธอในทุกราตรีที่มืดมน
ให้ความทุกข์ทรม  จางหายไป นะขวัญเอย......

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หมดพื้นที่ใจ ....ของใครบางคน

ไม่รู้จะบอกว่าอย่างไร
คงอ่อนแอเกินไป  ใช่ไหม...ที่เป็นเช่นนี้
กาลเวลา ไม่สามารถลบเลือนเธอได้สักที
ความรักยังมากมี  ไม่มีแม้....จะหายไป

เหงาเหลือเกิน...
ความหมางเมิน   เฝ้าถามหาอยากชิดใกล้
ได้แต่เว้าวอนฟ้า  จะให้ทำอย่างไร
 ขอชีวิตใหม่ ไม่ต้องคิดถึงใคร ....ให้ลืมที
บนพื้นที่ของหัวใจ...
ถูกเผาไหม้  จนกร้านไป ...กับรักที่ดีๆ
มองเป็นสิ่งน่ากลัว  ..กลัว...  ที่จะมี
จนไม่เหลือพื้นที่ ... แสงแห่งใจให้ใครมอง

ปวดร้าวเกินจะสู้ทน...
ต้องดิ้นรน  ฝ่าข้ามคืนวันอันเศร้าหมอง
เมื่อหมดพื้นที่ใจ ..ตันสนิท ..ไร้สิทธิ์จะจอง
ฉัน ... ก็ได้แค่มอง  ผ่านหัวใจที่เจ็บปร่า....
หมดพื้นที่ใจ ....ของใครบางคน

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กลอนบอกรักสั้นๆ

อากาศ หนาวแล้วนะ คนดี
ที่ตรงนี้ มีเพียงฉัน กับความฝัน
คิดถึงภาพ วันที่สองเรา เคยรักกัน
แม้ใจเธอ จะเปลี่ยนผัน แต่ใจฉันยังเหมือนเดิม
กลอนบอกรักสั้นๆ

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ไม่เคยเลย...ที่จะไม่คิดถึง

เคยมีไหม ....?
เสี้ยวนาทีสั้นๆ ....ในวันที่ไม่มีใคร
 เหมือนกันไหม  ....ความรู้สึกของหัวใจ
ที่ยังแอบหวั่นไหว  ทุกคราที่คิดถึงนี้.....
ต่อให้ยุ่งวุ่นวาย ....
ใจก็ไม่คลาย ความห่วงหา ได้เลยสักที
ยังแอบหลบมุมฝัน... ถึงวันที่อยากมี
ให้ความคิดถึงนี้  ...ส่งไปตามรายทางที่พร่าเบลอ
ไม่เคยเลยสักวัน.....
ที่ฉัน จะไม่คิดถึงเธอ
เหงา .... เหมือนกันไหม ในค่ำคืนเดียวดายอันแสนเก้อ
อยากบอกเธอ ว่าคิดถึง .. ทุกนาทีทุกลมหายใจของฉัน
นานแล้วนะ.....
แต่ใจก็ไม่เคยลดละค่า....สถานะในความผูกพัน
เธอยังเป็นหนึ่งเดียว ...ที่ใจพร่ำเรียกร้องหาทุกคืนวัน
ฉันรู้.... ต่อให้สิ้นลากัน  ฉันก็ยังมั่น ..... ในรักเธอ
ไม่เคยเลย...ที่จะไม่คิดถึง

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เ ว ล า

ความรัก อาจเป็น แค่ภาพลวงตา
ที่เข้ามา ทำให้ หัวใจบอบช้ำ
สร้างอดีตสั้นๆ ให้หัวใจ ต้องฝืนจำ
ต้องเจ็บปวด ทุกคืนค่ำ ยากเกินจะหายดี

เมื่อแรกรัก สิ่งรอบข้าง ก็สดใส
หนาวเหน็บเพียงใด ก็อุ่นใจ ได้ทุกที่
โทรศัพท์หา บอกคิดถึง ได้ทุกที่ทุกนาที
แต่อยู่ได้ไม่กี่ปี หัวใจที่มี ก็ไร้คนแคร์

เมื่อยามต้องเลิกกัน สิ่งรอบข้าง ก็จางหาย
ความฝันสลาย ต้องบอบช้ำ ใจเป็นแผล
เหน็บเหนื่อย กับการที่ ไม่มีใครมาเหลียวแล
ทุกค่ำคืน ทำได้แต่ นอนร้องไห้อยู่ฝ่ายเดียว
เ ว ล า

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ฝากใจมากับจันทร์

จะกี่ค่ำ ... ของคืนวัน
ก็ได้แต่มองจันทร์ในวันที่เงียบเหงา
เหนื่อยกายใจ  อยากพักใจให้คลายบรรเทา
ให้บางเบา  ไปกับลมหนาว ...ที่พราวไหว

มองดูจันทร์ เหมือนกันซิ...
ในค่ำคืนนี้ ... ฉันแบกหอบความคิดถึงไปให้
เธอคงได้รับ ...เมื่อยามลมพลิ้วระริ้วไหว
ให้คนไกล  อบอุ่นใจในทุกยาม....ของราตรีนี้

หลับตาเถอะ ในวันที่เหนื่อยล้า....
ให้แสงจันทรา  ...โอบกอดกายคลายอุ่น...นะคนดี
กำลังใจ ฝากจันทร์ไป  ให้ท่วมท้นดวงชีวี
ขอแค่คนฟากฝันนี้  ..สุขใจ...  ก็คลายใจได้แล้วเรา
ฝากใจมากับจันทร์

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ถึงคนดี ... ที่อีกฝั่งฝัน

ยิ้มรับหมอกหนาวที่พราวฟ้า

เยาะเย้ยสุริยา. .ที่ยังมาไม่ถึง

วันนี้ตื้นเช้าไปหน่อยนึง

เพราะความหนาวตราตรึง. .จนหลับไม่ลง

หนาวแล้วนะคนดีที่อีกฝั่งฝัน

กาลเวลาผลักดันมากมายหนุนส่ง

แต่ฉันจะบอกเธอ. .ว่าความคิดถึงล้นเอ่อมั่นคง

ไม่ว่าหนาวจะมากขึ้น. .หรือลดลง. .ยังคงคิดถึงแต่เธอ

ตื่นหรือยังก็ไม่รู้

แต่ว่าความคิดถึงจะดักรออยู่เสมอ

ตัวเก่านั่นแหละ. .ตัวที่ไปดักรอพบเจอ

วันนี้ก็เช่นกันนะเออ. .มันจะไปบอกเธอ. .เหมือนเดิม^ ^
ถึงคนดี ... ที่อีกฝั่งฝัน

มีเงิน...แล้วยังไง

มีเงิน...แล้วยังไง
ขอเมื่อไร...ให้จ่ายแจก
ทำเป็น...เอาเงินมาแลก
เพื่อแหกกฎ...ยุติธรรม

เห็นว่า...ขี้เหงา
ที่แท้ก็...มัวเมา...เพ้อพร่ำ
ยอดคำหวาน...ไปทั่ว...การกระทำ
พอถูกขย้ำ...ก็เดือดใจ

หาทาง...แก้ต่าง
หาแนวร่วม...ทุกทาง...เท่าที่ได้
ไม่ต้องการ...กลับมาแล้ว...พร่ำทำไม
เวบกลอน...ก็เกลื่อนไป...ให้โชว์ผลงาน

เวบเรา...มันคับแคบ
จะมัวมานั่งแอบ...ให้เมื่อยสังขาร
ก็ไร้ประโยชน์...ป่วยการ
เมื่อน้ำใจ...เจือจาน...มันขาดสิ้นลง
มีเงิน...แล้วยังไง

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

มีความเศร้า..เอามาแลก..

อันความเศร้า ของเรานี้ มีคนรู้
เหมือนมีผู้ เจือจาง ให้ห่างหาย
ด้วยทั้งเขา และเรา ได้ระบาย
คงจะคลาย ได้บ้าง ในทางดี

จากโดยที่ กันและกัน ได้ปันไป
เหมือนมีใคร เห็นใจ ได้วิถี
ร่วมรับรู้ แก้ไข ในบางที
บำบัดนี้ มีคุณค่า น่าทดลอง

ต่างกับสิ่ง ที่เป็นสุข ในทุกครั้ง
เมื่อรับฟัง ร่วมยินดี ทวีสอง
เพียงที่ใจ ไม่อิจฉา ควรค่าครอง
หากไตร่ตรอง ตามนี้ จะมีคุณ

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พอเถอะ...คำโกหก

อย่าเลย...เจ็บเกินพอ
ฉันขอ...อย่ามาเจอ
ถึงรัก...ก็นะเออ
อย่าเลย...โปรดอย่ามา

เจ็บแล้ว...เกินรับอีก
โปรดหลีก...ฉันเถิดหนา
ขอที...ช่วยร้างลา
ถือว่า...ให้เกียรติกัน
พอเถอะ...คำโกหก

วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ใบไม้ไหวหรือใจแกว่ง

เปรียบหัวใจคล้ายคลึงหนึ่งยอดหญ้า
ลมพัดวนบนฟ้าหญ้ายังไหว
คำติฉินนินทากว้างกว่าไกล
พัดเอาใจไกวบ้างก็ช่างเถิด

ต้นไม้ใหญ่ต้องสะท้านเพราะต้านลม
ดั่งคนล้มเพราะคิดว่าเขาประเสริฐ
ไผ่ลำอ่อนลู่ลมไปไม่หยิ่งเชิด
คนต้องถ่อมน้อมเถิดย่อมเกิดผล

วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ขอเก็บเธอไว้ .... ในความฝัน

เธออาจไม่เคยรู้..
เวลาดี-ดี ที่มีเธออยู่..ฉันสุขใจแค่ไหน
ถึงไม่ได้อยู่ในสายตา..ไกลเกินกว่าจะใกล้ใจ
แต่ความรู้สึกลึก - ลึกได้ห่วงใย..หัวใจฉันก็ยินดี

แอบมองอยู่ไกล..ไกล
ไม่กล้าคาดหวังอะไรมากไปกว่านี้
แค่เพียงได้ใกล้..จะอยู่ในฐานะอะไรก็ตามที
ก็เป็นสุขสุดหัวใจที่ฉันมี..ก็เพียงพอ
 

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

จับมือฉันไว้นะคนดี


. . สายลม พรมพลิ้ว พัดปลิวคล้อย . .
ฉันลอยหลับ ไปกับฝัน อันสดใส
สายลมโชย โปรยบอกฉัน จูงกันไป
ฉันลอยไป ในโลก แห่งนิรันดร์

. . ชีพในฝัน นั้นแสน จะอบอุ่น . .
ได้นอนหนุน อุ่นไอรัก ในตักฝัน
มีเพียงเรา เข้าใจใน กันและกัน
ทั้งคืนวัน พร่ำเพ้อ ละเมอใจ

. . อยากขอบคุณ ในเรื่องราว ที่ดีดี . .
ฟังดนตรี ฝันจากใจ ให้สั่นไหว
ฉันเบิกบาน สะท้าน ทุกทีไป
ช่างซึ้งใจ ในคุณค่า น่าศรัทธา

. . เพราะไมตรี ที่ไพเราะ เพราะอย่างนี้ . .
สิ่งดีดี ที่หลายคน เฝ้าทนหา
ไม่ว่าเธอ จะเป็นคน ธรรมดา
หรือนางฟ้า ผู้อาทร พรบำเรอ

. . ให้มาเจอ ในฝัน บันดาลสุข . .
ในทุกทุก วินาที ดีเสมอ
แต่ฉันไม่ เหลืออะไร ตอบแทนเธอ
คงได้แต่ พร่ำเพ้อ.. แสนเสียดาย

. . และขอบคุณ อุ่นไอ ที่ให้กัน . .
ที่แห่งนั้น ฉันซึ้งใจ ไม่จางหาย
ด้วยใจจริง อยากอิงแนบ เอนแอบกาย
ไม่อยากให้ ฝันสลาย ละลายไป

. . หวังให้เธอ มีฝันดี ดีแบบนี้ . .
เช่นฉันมี และไม่เคย เลยจากไหน
อยากให้เธอ ได้รับบ้าง อย่างสุขใจ
เหมือนฉันได้ ฝันดี นี้จากเธอ

 

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คนฝันเฟื่อง

อยากติดปีก ให้หัวใจ
บินถลาไกล  สุดเขตหล้า
ชีวิตอิสระ  ไม่ต้องตกเขตกังหา
ไม่มีอาญา ที่ใครใคร่จะกำหนด

 บรรทัดฐาน  กำหนดมาเพื่อ
ให้สังคมคลุมเครือ มากชั้นหลั่นลด
ฉีกขาดให้ ทัดเทียมกันอย่างหมดจด
รวย ? จน  ละลด จักไม่มี  และไม่มี

สิทธิ จักเท่าเทียมกัน
ไม่แบ่งเขตชนชั้น ยาจกหรือมั่งมี
เรียนจบมีงานทำ ไม่ต้องมีเส้น ? สี
เอาแค่ใบดีกรี  เบิกทางสู่ความฝัน

ไม่มีเงินตรา วัดค่ากัน ด้วยเกียรติศรี
เอาแค่ความรู้สึกที่ดี  ให้กัน และให้กัน
เพราะทนเห็นไม่ได้  ในความสับสนพันลวัน
เลยเพ้อฝัน ฝันเฟื่อง ตามประสา  ฮ่า...ฮ่า

วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กลอนถวายพระพรแด่ในหลวงเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ

ประณตน้อมอาเศียรวาท
แทบเบื้องบาท พระทรงชัย
สถิต ณ หทัย
แห่งทวยราช ไทยประชา

พระเป็นดั่งมิ่งขวัญ
ที่เสกสรร นครา
พระเกียรติเกริกก้องฟ้า
องค์มหา จักรีวงศ์

5ธันวามหาราช
ขอพระบาท ยั่งยืนยง
สถิตคู่สยามคง
ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
ชีวิตดั่งน้ำค้างหาว กรรมสิ้น เวรหมด ใจหลุดพ้น

กลอนถวายพระพรแด่ในหลวงเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ

วันที่ความรัก ..... หายไป

เมื่อใครบางคนได้เดินจากไป
แต่ก็ไม่ใช่ว่าอานาคตจะหมดไปด้วยไม่
แม้เขาไม่เหลือซึ่งความรักที่เขาเคยให้
ก็ยังเหลือไว้ ซึ่งความหวังที่เราควรมี........

เพียงต้องผ่านวันนี้ไปให้ได้
เพื่อพบอานาคตอันสดใส ของวันพรุ่งนี้
เราจะรั้งให้คนไร้ใจอยู่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี
ต่อให้....ก้มลงกราบ....  รักนี้ ก็ไม่คืนกลับมา.......


อย่าซ้ำเติมตัวเองด้วยการร้องให้
เพราะน้ำตา ไม่ใช่ การต่อรอง...... ให้เขาหวนหา
ควรยิ้มเข้าไว้ หยุดเสียใจให้เขาเวทนา
เรามีค่า เกินกว่าที่คร่ำครวญ .....แค่หนึ่งคนที่จากไป

วันที่ความรัก ..... หายไป

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คำพ่อสอน

โอ้ลูกเอ๋ย เมื่อเคยผิด  ชีวิตพลาด
ตกประมาท  คาดไม่ถึง  จึงเพลี่ยงพล้ำ
พ่ออภัย  ไม่ถือโกรธ  โทษสักคำ
อย่าหลงทำ  ผิดซ้ำสอง  ครรลองเดิม

ตื่นจากหลับ  กลับใจตน  เป็นคนใหม่
อย่าหวั่นไหว  ใครยุยง  ริส่งเสริม
อย่าแพ้พ่าย  ว่ายเวียนวน  สู่หนเดิม
หยุดซ้ำเติม  บ่วงชีวิต  หลงติดยา

พ่อเตือนไว้  ด้วยใจหวัง  ก่อนพลั้งพลาด
ทุกชีวิต ลิขิตวาด  ปรารถนา
คำพ่อกล่าว  เจ้าอย่าเลือน  เตือนอุรา
สิ่งล้ำค่า  กว่าลูกนี้  มิมีเลย
คำพ่อสอน

บ่วงใจ

ว่ายเวียนวน .... เหมือนคนต้องขัง
ไร้จีรังซึ่งความรัก....  จักห้ามใจ
เฝ้าเวียนถาม .... เกิดเพราะเหตุใด
หรือต้องตาย .. ใช่ใหม... ถึงต้องลืมนั่น..


ยามเจ็บพร่า .... ฆ่ากันเลยดีกว่าไหม
ลึกลวงใน  ....ใจร้าวรานเหมือนสิ้นกัน
หรือต้องสาป .... แห่งรอยกรรมที่ก่อทำ
กี่ครั้งเล่าใจช้ำ .... ไร้แรงจะต้านไหว...


เหมือนตกสู่  ....ห้วงลึกแห่งขุนเขา
ใจแผ่วเบา ....  เกินปีนป่ายจากบ่วงใจ
ใจซอมซ่อ .... ซมซานระรานไหม้
เหมือนขุมไฟ   ....สุมทรวงใจ....ให้แผดเผา....

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สายฝน..ปน..น้ำตา

สายฝนปนน้ำตา
ดั่งฟากฟ้าปล่อยให้รินไหล
คล้ายๆกับน้ำตาร่วงจากหัวใจ
ของฉันคนอ่อนแอนี่ไง..คนดี

ขอบคุณสายฝนจากฟากฟ้า
ที่ช่วยกลบรอยน้ำตาคนอ่อนไหว
ปิดไม่ได้น้ำตาของคนเดียวดาย
ให้ฝนช่วยชะล้างออกไป..จากใจที

สายฝน..ปน..น้ำตา

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เขาหรือเรา

กี่ความช้ำ ที่ฝัง มาบรรจบ
อยากจะลบ ความผิดหวัง ที่ถามหา
เมื่อมีเธอ คนดี เดินเข้ามา
หยดน้ำตา ได้จางหาย มลายไป

เธอบอกรัก คิดถึง คำนึงหา
ฉันพลาดท่า รักเธอไป เมื่อตอนไหน
ความรู้สึก ดีดี คนของใจ
แม้ห่างไกล เลือนลาง ยังรำพึง

เมื่อได้รัก สุดใจ ยากจะถอน
จะกินนอน ยังรัก ยังคิดถึง
ฉันดีใจ ที่เธอรัก ยังคำนึง
หยอดคำซึ้ง ให้ฉัน แทบเชื่อใจ

กาลเวลา ผ่านไป ไม่นานนัก
สุดที่รัก ของใจ เริ่มไม่ไหว
เธอบอกว่า ยังไม่ลืม เขาคนไกล
แล้วไฉน ที่ผ่านมา บอกรักกัน

ฉันแทบอึ้ง คำพูดเธอ ที่ได้หลอก
เจ็บช้ำชอก ที่ผ่านมา ก็แค่ฝัน
หลอกคำรัก คำลวง ไปวันวัน
ที่แท้เธอ แค่หลอกกัน ให้ตายใจ

เธอไม่ลืม คนเก่า ที่ยังฝัง
ไม่อาจรั้ง รักเรา มันไม่ไหว
เมื่อคนดี ของฉัน มันหมดใจ
เพราะทุกห้อง ข้างใน ให้แต่เธอ

อันที่จริง ฉันก็แค่ เป็นทางผ่าน
แค่สะพาน เชื่อมต่อรัก เมื่อเธอเผลอ
ฉันมันโง่ ไม่รู้เรื่อง คนของเธอ
ที่ผ่านมา ก็แค่เพ้อ โดนมอมเมา

เขาคนเก่า ฉันคนใหม่ กล้าบอกรัก
ฉันต้องพัก ปล่อยเธอ ไปกะเขา
มาทีหลัง ต้องปล่อย เขาจากเรา
ก็เป็นเแค่ ลมบางเบา ใครจะแล ..


 
เขาหรือเรา

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เมื่อเธอหมดรัก...ก็คงจากไกล

ก็เท่านี้...ที่ทน
อย่าพร่ำบ่น...ให้เหม็นเบื่อ
หมดแล้ว...รักจุนเจือ
สุดเถือ...แค่นสายใย

จบลง...ตรงทางแยก

ด้วยแบก...เกินรับไหว
ถ้าขืน...ฝืนต่อไป
เพลิงไฟ...คงเผาทรวง
เมื่อเธอหมดรัก...ก็คงจากไกล

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

นักกลอนกับความฝัน

...เป็นนักกลอน นอนหลับ กับความฝัน
คืนและวัน ซ่อนความหวัง ยังอยู่ไหว
ทางสู่ฝัน ล้วนขวากหนาม ลุกลามใจ
ยึดธรรมไว้ นำหลักจิต คิดทำดี

...เขากล่าวหา ศิลปิน ว่ากินเกลือ
ฉันยังเชื่อ ในความรัก และศักดิ์ศรี
ยังทราบคุณ อุ่นรัก ทุกนาที
แม้ไม่มี เงินทอง กองให้เธอ

...เขายังพูด ศิลปิน มันปิ้นป้อน
ทั้งกะล่อน ลวงเล่น เช่นทีเผลอ
ฉันยังแคร์ ความรู้สึก นึกถึงเธอ
รักเซอร์ๆ มีเพียบเพ็ญ เป็นบทเรียน

นักกลอนกับความฝัน

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ความทรงจำสีจาง

ความทรงจำสีจางจาง
บางสิ่งบางอย่างที่ไม่เคยเลือนหาย
ตกผลึกอยู่ในหัวใจ
ซ่อนเร้นเอาไว้อย่างเงียบงัน

รื้อมาบ้างเมื่อยามคิดถึง
เก็บเอาไว้เป็นส่วนหนึ่งของความฝัน
ไว้เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงาในบางวัน
ปลอบประโลมเมื่อฉันมีน้ำตา

ความทรงจำสีจางจาง
ในยามที่อ้างว้างช่างแสนมีค่า
เพียงเสี้ยวหนึ่งของวันเวลา
ที่ฉันเก็บรักษาไว้เนิ่นนาน

สุดทางรัก




สุดทางบินสิ้นหวังพะวังรัก
ต้องอกหักรักร้างอยู่ข้างหลัง
ใจดวงนี้เเทบสลายมลายพัง
ต้องสิ้นหวังสิ้นรักหักอาลัย

เพียงหนึ่งปีที่เราต้องจำพราก
ต้องจำทนลำบากเป็นไหนไหน
ตัวเราสองอยู่ห่างทางเเสนไกล
เเต่หัวใจเราชิดสนิทกัน

ภาพที่เราทั้งสองเคยครองรัก
ยังสลักใจอยู่มิรู้ผัน
เพียงความสุขที่เรามีไม่กี่วัน
เเต่สุขนั้นจรรโลงใจไปเเสนนาน
 

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ราตรีที่ทรมาน

ยามราตรึ  มีดาว  สกาวฟ้า
ท้องนภา  น่ายล  จนหลงใหล
ดวงดาวเกลื่อน  เดือนลา  มาลับไป
นั่งหวั่นไหว  ใครหนอ  รอตะวัน

ไม่เหมือนฉัน  นั้นหนา  อุราหม่น
ต้องทุกข์ทน  จนเศร้า  เฝ้าแต่ฝัน
ดาวเคยเคียง  เลี่ยงไกล  ให้จาบัลย์
ทุกคืนวัน  หันหา  ไม่มาเยือน...
ราตรีที่ทรมาน

นี่หรือใจ ..

นี่หรือใจ..ที่ว่ารักมักบอกใช่
นีหรือใจ..ใยลวงหลอกทำหลบหนี
นี่หรือใจ..ที่ว่ารักจักภักดี
นี่หรือใจ..ที่ว่ามีน้องคนเดียว

นี่หรือใจ..ของพี่ใยใจร้าย
นี่หรือใจ..ของพี่ชายไม่แลเหลียว
นี่หรือใจ..ที่มีน้องเพียงผู้เดียว
นี่หรือใจ..ที่เปล่าเปลี่ยวรอน้องจอง

นี่หรือใจ..ของคนรักหักใจเจ็บ
นี่หรือใจ..ที่จะเก็บไม่ให้หมอง
นี่หรือใจ..ที่รอน้องจะครอบครอง
นี่หรือใจปนเศร้าหมองครองน้ำตา

นี่หรือใจ..คนบอกลามาเพื่อจาก
นี่หรือใจ..คนรักมากให้ผวา
นี่หรือใจ..ลวงหลอกกลิ้งกลอกตา
นี่หรือใจ..คนไร้ค่าบอกลากัน ..
นี่หรือใจ ..

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ไร้แม้แสงตะวัน..

ไร้แม้แสง แห่งตะวัน นั้นสาดส่อง
สุดหม่นหมอง มองไม่เห็น ทางข้างหน้า
ทั้งชีวิต มืดมิด ดังปิดตา
ไร้คนมา เห็นใจ ในตัวเรา

     คงไม่มี อีกต่อไป ใจที่สุข
ต้องทนทุกข์ คนเดียว สุดเปลี่ยวเหงา
รอเพียงแค่ ความตาย กร้ำกรายเรา
ปิดฉากเศร้า สุดโศก โบกมือลา....
ไร้แม้แสงตะวัน..

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

พยาน. .รัก

เชื่อไหม. .ว่าหัวใจบางบาง

มักถูกรังแกอย่างโหดร้าย

รู้ไหมว่าบางคนเจ็บเจียนตาย

เพราะตีค่าคำว่ารักมากมาย. .เกินความเป็นจริง

มีใครบอกหรือเปล่า

ว่าความเพ้อฝันงี่เง่า. .จะทำให้เราถูกทิ้ง

แล้วเคยเชื่อไหม. .ว่ารักแท้จากใจ. .จะมีจริง

นั่นแหละคือสิ่ง. .ที่ทำให้หัวใจยิ่ง. .ทรมาณ

เพราะรู้แบบนี้ตลอดมา

จึงกลายเป็นคนเย็นชาไม่อ่อนหวาน

แต่วันนี้. .ถูกความดีของเธอเข้ารุกราน

จึงทิ้งกฎของวันวาน. .แล้วช่วยเป็นพยาน. .ว่า"รักแท้ช่างเบิกบาน. .และมีจริง"
พยาน. .รัก

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เพราะเธอก้าวเข้ามา

. .ฉัน. .

เหม่อมองพระจันทร์บนฟากฟ้า

เหงานะ. .เหงามากมายในดวงตา

แม้เสียงแห่งคีตา. .ยังอ่อนล้าเกินบรรยาย

. .เธอ. .

ผู้หญิงสไตล์เซอร์เซอร์. .ไม่หลากหลาย

สนุกสนานกับชีวิตมากมาย

ร็อคแอนโรล. .พังค์เนเวอร์ดาย. .หลากหลายลีลา

. .ฉันและเธอ. .

ตั้งแต่วันที่ได้เจอ. .ยามอ่อนล้า

พังค์เริ่มเข้ามามีบทบาทในสายตา

และเพลงช้าช้า. .เธอก็เริ่มพาเข้าหัวใจ

. .วันนี้. .

อยากบอกว่าใจที่มีเข้มแข็งแล้วรู้ไหม

เพราะเธอก้าวเข้ามา. .ยามอ่อนล้าไม่มีใคร

ฉันจึงรักอย่างที่ฉันมั่นใจ. .ว่าเป็นเธอ

ไม่รู้จะเหมือนกันหรือเปล่า

กลัวว่าเรื่องราวต่างต่าง. .เป็นเพียงแค่ฉันพร่ำเพ้อ

รักนะ. .ผู้หญิงสไตล์เซอร์

จากผู้ชายเหงาละเมอ. .รักเพราะเธอ. .ก้าวเข้ามา

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คนหลังยังห่วง

จากดวงใจของผู้ชายคนนี้
ที่เคยรัก...และหวังดี...ครั้งก่อนนั้น
ครั้งอดีตแม้เคยรักและผูกพัน
วั น นี้ นั้ น ไ ม่ ต่ า ง กั น ค ว า ม ห่ ว ง ไ ย

แต่อาจเปลี่ยนสถานะจากคนรัก
เป็นแค่คนรู้จักอย่าหวั่นไหว
ถึงสิ้นรักก็ไม่สิ้นสายไย
ฉั น ยั ง ค อ ย ห่ ว ง ไ ย เ ส ม อ ม า
เห็นเธอสุขฉันก็สุขไปด้วย
จะขอเอาใจช่วยด้วยความห่วงหา
ถึงจะบอกเธอได้แค่สายตา
แต่อยากให้รู้ว่า..ยังมีสายตาบ้าๆที่ห่วงไย
คนหลังยังห่วง

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กระดาษใบหนึ่งหนึ่ง

มีกระดาษหนึ่งใบในมือฉัน
จะสร้างสรรค์อะไรไปดีหนา
เจ้ากระดาษหนึ่งใบอันมีค่า
เพิ่มราคาลดคุณค่าที่ผลงาน

หรือว่าฉันจะพับจรวดดี
วายุมีกู่ก้องร้องขับขาน
กระดาษน้อยค่อยค่อยพุ่งทะยาน
ร่อนผสานแผ่นฟ้าเป็นแผ่นเดียว

กวีบทหยาดเยิ้มให้หยดย้อย
ให้คนคล้อยเคลิบเคลิ้มคอยแลเหลียว
กวีหนึ่งซาบซึ้งเสียจริงเชียว
หนึ่งบทเกี้ยวกระดาษให้บาดใจ

เขียนจดหมายถึงใครสักคนหนึ่ง
เขาจะซึ้งตอบกลับฉันมาไหม
ระบายรักที่มีอยู่ข้างใน
กระดาษไปบอกรักแทนฉันที

หรือเขียนภาพลงไปในกระดาษ
จะลองวาดขาวดำหรือมีสี
สร้างผลงานสื่ออารมณ์คารมณ์ดี
ภาพหนึ่งมีความหมายหลายหมื่นคำ

เขียนรายงานผลงานการความรู้
ไว้ใช้ดูเพิ่มเติมเผดิมย้ำ
วิชาการก้าวไกลด้วยใจนำ
คุณค่าล้ำวิชาในหมื่นนัย

หรือจะให้เวลาเขียนกระดาษ
สายน้ำวาดสายลมเขียนให้เปลี่ยนไป
สัจธรรมหมุนกลับไม่หลับใหล
สร้างสรรค์ใหม่กลับกลายเป็นปุ๋ยดิน

กระดาษใบหนึ่งหนึ่ง

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ดอกหญ้าริมทาง

เป็นเพียงแค่ ดอกหญ้า ตามริมทาง
อยู่อ้างว้าง เดียวดาย สายลมไหว
เหมือนรู้สึก อ่อนแอ ในจิตใจ
เฝ้ารอใคร บางคน อย่างเลื่อนลอย

เป็นแค่เพียง ดอกหญ้า ที่โบกพริ้ว
ปลิวลอยลิ่ว ชื่นชม เหมือนเหงาหงอย
แค่ได้นั่ง ตรงนี้ เฝ้ารอคอย
ใจก็พลอย อิ่มเอม ไปทั้งวัน

ไม่ขอเป็น ไม้ใหญ่ ในป่าเขา
มีแค่เพียง ลมบางเบา พัดพาฝัน
สุดขอบฟ้า ยังยิ้มรับ ดวงตะวัน
ดอกหญ้านั้น จะยิ้มรับ ดวงใจเธอ
ดอกหญ้าริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ผู้หญิงอย่างฉัน


จะรับได้ไหม  กับผู้หญิงอย่างฉัน
คนที่เธอบอกอยากสานสัมพันธ์ให้ก้าวหน้า
แค่ผู้หญิงบ้านๆ หน้าตาก็ธรรมดา
ไม่สะดุดตาเท่าใหร่ ใคร่อย่าสน

IT ฉันไม่รู้ อาจดูเชยไม่เก๋โก้
ไม่ไฮโซ อยู่คอนโดเลิศหรู กับคอนเซ๊ปต์ล้น
มือถือก็ธรรมดา  อย่าถามหา  iPhone เพราะฉันจน
Mazda 3 ขับเฉี่ยวล้น ฉันคนนี้ ไม่มี ไม่มี

ปากแดง เล็บแดง แสลงจัง  ฉันไม่กล้า
ฉีดหน้า  เสริมคาง คงเปลี่ยนหน้า  ให้สวยดี
ตาก็เล็กตี่ อย่าใส่จัง บิ๊กอาย  ให้แบ๊วกว่านี้
ส่วนเล็บนั้นก็อยากเพ้นท์รูปสี  kitty  มั่ง

กางเกงสั้น สองคืบ สามคืบ อยากหามาใส่
กระเป๋าด้วยอยากสะพาย หลุยส์ หรือGucci คงน่าชัง
สายเดี่ยวเอวลอยก็อยากใส่  แต่อายเขาจัง
เห็นไหมล่ะ เธอจะยัง  สนฉันไหม ใคร่อยากถาม

วิถีชีวิต  บวกความคิด ตามแบบวิถี
ความเหมาะสมคงไม่มี  ให้ปองถาม
แค่คนซื่อ ถือความตรง ตามครองนาม
คงไม่งาม  ตามแบบสาว ชาวคนเมือง

ผู้หญิงอย่างฉัน

อโหสิกรรม

เธอเคยเสียใจ
ร้องไห้หรือเปล่า
ว่ามันปวดร้าว
เจ็บลึกแค่ไหน

อยากจะลืมวัน
ที่มันผ่านไป
ยิ่งลืมเท่าไร
ใจมันยิ่งจำ

อยู่อย่าโดดเดี่ยว
เหลียวมองขึ้นฟ้า
ตะโกนบอกว่า
นี่คงเป็นกรรม

รอยแห่งความรัก
จากที่เธอทำ
อโหสิกรรม
ให้เธอวันนี้...สาธุ
まはさん
อโหสิกรรม

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

รอเธอจนเหนื่อยหัวใจ..

จิตใจเธอทำด้วยอะไร..
ถึงปล่อยให้ฉันต้องรอเรื่อยไป..อย่างนี้
สนุกมากใช่ไหม..หรือคิดว่าหัวใจฉันไม่มี
หรือเธอรู้สึกยินดี..ที่ทำให้ฉันมีน้ำตา

แต่หัวใจฉันเจ็บเป็น..
ทนฝืนทุกทีที่เห็น..ไม่เคยว่างเว้นความเหว่ว้า
อยู่กับการเฝ้ารอคอย..เหนื่อยใจจนอยากถอยกลับมา
ดีกว่าเจ็บจนชินชา..อยู่อย่างไร้ค่าแค่เศษใจ

เมื่อความสำคัญลดระดับ..
คงยากที่หวนคืนกลับ..ไปเริ่มนับหนึ่งใหม่
เป็นแค่ตัวตลกในสายตา..ไม่เคยมีคุณค่าอะไร
ในเมื่อรักที่ให้สุดทางไป..ก็ขอหัวใจตัวเองกลับคืน
รอเธอจนเหนื่อยหัวใจ..

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แทนความรัก...ถึงคนดี

แทนห่วงหาอาทร...แทนคิดถึง
แทนถ้อยคำมากกว่าหนึ่ง...ลึกซึ้งค่า
แทนความรักหวงแหน...แทนศรัทธา
แทนห่วงใยให้คนดีของชีวา...คือหมดใจ
แทนความรัก...ถึงคนดี

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ถาม..หาเหตุผล

เหตุผล


อยากหาเหตุผล  ที่เราสองคน  ต้องจากกัน
ละทิ้งความฝัน  ที่สร้างกันทิ้งไป
แต่หากี่ครั้ง  ก็ยังไม่เคย  เคยเข้าใจ
ค้นหาเท่าไร  เจ็บไปทุกที...

มีคนเคยบอกไว้  ว่าจิตใจคนสองคน
บางครั้งเหตุและผล  มันไม่เคยมี
มีทางเดียวเท่านั้น  แล้วมันคงจะดี
คือลืมเธอเสียที  แต่วันนี้ฉันยังจำ

อยากหาเหตุผล
ก็เลยต้องทน  ทนเจ็บช้ำ
มันคอยตอกย้ำ  ให้จำเรื่อยไป...

(ดนตรี)

มีคนเคยบอกไว้ ว่าจิตใจคนสองคน
บางครั้งเหตุและผล  มันไม่เคยมี
มีทางเดียวเท่านั้น  แล้วมันคงจะดี
คือลืมเธอเสียที  แต่วันนี้ฉันยังจำ

อยากหาเหตุผล
ก็เลยต้องทน  ทนเจ็บช้ำ
มันคอยตอกย้ำ  ให้จำเรื่อยไป...

ถาม..หาเหตุผล#msg60374#msg60374

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

น้ำตาลสิ้นรส

น้ำตาลยังสิ้นรสหวาน
ในเมื่อวันวานไม่อาจหวนมาใหม่
รักกันแล้วกันจะแปลกอะไร
เมื่อเธอไม่เหลือเยื่อใยให้ฉันเลย
น้ำตาลสิ้นรส

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

★ ลอยกระทงเสี่ยงรัก ★

เทศกาล  ลอยกระทง  ใกล้มาแล้ว
โอ้ดวงแก้ว  ยังจะมา  หรือไม่หนอ
หรือจะปล่อย  ให้พี่นั้น  ต้องเฝ้ารอ
น้ำตาคลอ  รออยู่  เพียงเดียวดาย

สายน้ำหลาก  มากมี  ในปีนี้
กระทงพี่  อาจลอยพัด  จนสูญหาย
กระทงเจ้า  อาจช่วยคัด  ไม่จมไป
เหมือนสายใย  พันบิด  จิตสองดวง

จะรอเจ้า  เมื่อถึงวัน  นั้นแหละหนา
คงไม่ปล่อย  ให้ชีวี  พี่หม่นหมอง
ให้กระทง  หลงทาง  ไปตามคลอง
หากเราสอง  มีใจ  ที่ตรงกัน

ด้วยกุศล  ผลบุญ  นำหนุนช่วย
คงจะช่วย  ให้รัก  ได้สุขสันต์
ปลุกชีวิต  ให้เริงรื่น  ชื่นชีวัน
เรารักกัน  จงอย่าบั่น  สัมพันธ์เลย

 ★ ลอยกระทงเสี่ยงรัก ★

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ไม่มีคำพูดใด...

ไม่มีคำพูดใด...
ที่จะทำให้เธอเข้าใจฉันมากกว่านี้
ไม่อาจลดทอนได้ในคำถามที่เคยมี
แค่อยากบอกคนๆนี้สุด...แคร์

ไม่มีคำพูดใด...
นอกจากคำว่า หมดใจ  แล้วแน่ๆ
ยอมรับไม่ได้หากอะไรมาผันแปร
เหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ไม่อยากฟัง



ไม่มีคำพูดใด...
บอกแค่ใจลืมไปแล้วภาพความหลัง
อดีตคือสิ่งที่เกรอะกรัง
ปัจจุบันฉันยังคง...แคร์

ไม่มีคำพูดใด...
เหตุการณ์จะหนักแค่ไหนก็แล้วแต่
ยังคงเหมือนเดิม "รักคุณ" อีกนั่นแล
เหตุผลสั้นคือแคร์แค่คิดเอง

ไม่มีคำพูดใด....

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ถาม..หาเหตุผล

เหตุผล


อยากหาเหตุผล  ที่เราสองคน  ต้องจากกัน
ละทิ้งความฝัน  ที่สร้างกันทิ้งไป
แต่หากี่ครั้ง  ก็ยังไม่เคย  เคยเข้าใจ
ค้นหาเท่าไร  เจ็บไปทุกที...

มีคนเคยบอกไว้  ว่าจิตใจคนสองคน
บางครั้งเหตุและผล  มันไม่เคยมี
มีทางเดียวเท่านั้น  แล้วมันคงจะดี
คือลืมเธอเสียที  แต่วันนี้ฉันยังจำ

อยากหาเหตุผล
ก็เลยต้องทน  ทนเจ็บช้ำ
มันคอยตอกย้ำ  ให้จำเรื่อยไป...

(ดนตรี)

มีคนเคยบอกไว้ ว่าจิตใจคนสองคน
บางครั้งเหตุและผล  มันไม่เคยมี
มีทางเดียวเท่านั้น  แล้วมันคงจะดี
คือลืมเธอเสียที  แต่วันนี้ฉันยังจำ

อยากหาเหตุผล
ก็เลยต้องทน  ทนเจ็บช้ำ
มันคอยตอกย้ำ  ให้จำเรื่อยไป...
ถาม..หาเหตุผล#msg60374#msg60374

แด่ความรัก

คิดถึง~~
เป็นคำซึ่งซึ้งในใจเสมอ
คิดถึงทุกวันนี้มีเพื่อเธอ
แม้ความเก้อคืออมิตรคอยริดรอน

กับความรักคล้ายเป็นเช่นความหลัง
และความหวังจะวายกลายเป็นหลอน
ความหวงห่วงคิดถึงซึ้งอาทร
จะถึงตอนปิดม่านโดยนานยาว

หัวใจ~~
จะคิดถึงทำไมให้ใจหนาว
กับความหลงลืมตัวเพียงชั่วคราว
จนเกิดมีรอยร้าวในหัวใจ

เราก็ยังเป็นเรา~~
เงียบเหงาฟุ้งซ่านหวั่นไหว
ไม่มีคุณค่าสำหรับใคร
ถ้าเปรียบเป็นดอกไม้ก็ดอกดิน

อย่าหมาย~~
คิดตะกายดอกฟ้าให้ลาถิ่น
กับคำคนเหยียดหยามยามยิน
เจ็้บในจินต์กรีดกมลตนเองนัก

ต่อแต่นี้~~
จะมุ่งสร้างชีวีที่มีหลัก
พอทีกับนิยามคำว่ารัก
เราคงจักปิดหัวใจไม่ให้มี

~~~~~~~~~
แด่ความรัก

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เพราะรัก



ค่ำคืนนี้ หนาวใน หัวใจนัก
เมื่อคนรัก แนบเนา เข้ามาใกล้
ดอกราตรี กลิ่นร่ำ มารำไร
ดอกหัวใจ สองดวง ห่วงสัมพันธ์

จันทร์กระจ่าง หลบเข้า ในเงาเมฆ
เหมือนจะเสก ฤทธิ์กล้า มาหาฉัน
นกกลางคืน ละเมอ เพ้อขึ้นพลัน
ให้ประหวั่น ถ้าคืนนี้ มีเพียงเรา

เสียงสั่นพร่า กล้าใกล้ แต่ไม่กล้า
ร้อนอุรา เหมือนใคร เอาไฟเผา
เมื่อถูกกุม มืออ่อน ซ้อนบางเบา
ใจสั่นเทา หวั่นไหว ไปทั้งกาย

เห็นสายตา ส่งให้ ใจจะขาด
พิศวาส คลุมเครือ อย่างเหลือหลาย
อยากแตะต้อง มองเอื้อ ก็เหลืออาย
ให้วุ่นวาย ใจเจ้า เยาว์มาลย์

ไม่กล้าสบ นัยนา ไม่กล้าเอ่ย
เขาก็เชย คางช้อน อย่างอ่อนหวาน
?หรือตัวพี่ สร้างเอา เจ้ารำคาญ
จึงพลิกผ่าน พักตรา ไม่มามอง?

จะให้ตอบ ใดเล่า โอ้เราเอ๋ย
ด้วยมิเคย เคียงคู่ อยู่เพียงสอง
แค่รู้ว่า ตัวเขา จะเข้าครอง
ตาก็นอง คลาคล่ำ ด้วยน้ำตา

ใช่เสียใจ เป็นเหตุ ให้เนตรกล่ำ
แต่สุขล้ำ ทั่วถ้วน ดั่งครวญหา
ผ่านคืนนี้ อย่าไร้ ให้ไกลตา
อย่าจากลา น้องนี้ ไปที่ใด

ฝากชีวิต จิตใจ ให้ถึงพร้อม
รักจึงยอม มอบมั่น มิหวั่นไหว
จะพบสุข ทุกข์เข็ญ ให้เป็นไป
ทั้งกายใจ มอบพี่ นี้คนเดียว



เพราะรัก

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

รักใหม่...

รักเช่นนี้ ไม่มี มานานแล้ว
ฉันมันแคล้ว คลุกเคล้า กับเศร้าหมอง
 ความหลงใหล ก็ให้ เขาไปครอง
ไม่ตริตรอง มองรัก อีกซักครา


แต่วันใหม่ ส่งใจ จนไปถึง
ใกล้คนหนึ่ง ซึ่งฉัน มันตามหา
ยอมละทิ้ง รักเศร้า ครั้นเฝ้ามา
หยุดใจล้า เหนื่อยอ่อน ที่ผ่อนตาม


เธอคนนั้น เปลี่ยนให้ หัวใจฉัน
กลับจากโลก โศกศัลย์ ดั่งดงหนาม
มีความสุข สิ้นทุกข์ ปลุกใจทราม
คอยทวงถาม ความรัก ประจักษ์ใจ


ฉันบอกได้ แค่รัก เธอมากมาย
รักเก่านั้น จางหาย เป็นสดใส
?ซาราง แฮโย จะบอกให้
ขอทดสอบ มอบไป ไอเลิฟยู
?

เจ็บจนจำตอกย้ำยิ่ง

รักใหม่...

ไม่อาจบอกรักใครได้นอกจากเธอ

ถ้าบอกรักใครได้ง่ายง่าย
คงไม่ต้องเดียวดายจนถึงวันนี้
ก็เก็บคำว่ารักไว้บอกเธอคนดี
บอกได้แค่รักเธอคนนี้แค่คนเดียว

ไม่อาจบอกรักใครได้นอกจากเธอ

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ยอดรัก ยอดขวัญ

เอนกาย   พักลงที่ตรงนี้                    
หลับตานะคนดี จะกล่อมขวัญ               
เล่านิทานความรักเป็นพรจากพระจันทร์   
รินน้ำฟ้าของความฝัน มาพรมใจ             

. . . . . . . . . . . . . .               



ได้ยินไหม บทเพลงจากรัตติกาล             
พริ้วผ่าน เป็นสายลมหวาน อ่อนไหว       
ที่เรืองรองในความมืด คือเจ้าหิ่งห้อยอำไพ
ที่เรียงรายอยู่บนม่านฟ้าไกล  คือดวงดาว 

. . . . . . . . . . . . . .               



ท่ามกลางความมืดที่ซ่อนเร้น             
เธอไม่ได้เดียวดายเช่น ในคืนหนาว       
บทกวีขับขาน เป็นสายธารทอดยาว     
ให้คืนนี้มีเพียงเรา ...                       
~ ไม่มีอื่นใดให้เจ็บร้าว นิจนิรันดร์     

ยอดรัก ยอดขวัญ

วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กลอนรักจาก..มือถือ

หากขอพรได้3ข้อ
ฉันจะขอให้เธอรักฉัน
ให้เราได้รักกันและกัน
และรักมั่นเพียงสองเรา

**************

คิดถึงแต่ไม่บ่อย
เล็กน้อยแต่ยาวนาน
ไม่ตลอดกาล
แต่ตลอดไป

**************

เกี่ยวก้อยมาร้อยดาว
เต็มราวบนฟากฟ้า
เรียงรายสุดสายตา
เป็นคำว่า..ฉันรักเธอ

**************

ขอรูปหนึ่งใบ
ขอใจหนึ่งดวง
ถ้าแม่ไม่หวง
ขอควงเป็นแฟน

**************

กลอนรักสั้นๆน่ารักๆ

ถ้าไม่รังเกียจกัน
มาซบอกฉันได้เสมอ
ที่ตรงนี้มีไว้สำหรับเธอ
รักเธอเสมอนะคนดี

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ฝังใจ

ฝังรักนี้ในใจใครคนหนึ่ง
ที่ยังซื้งคิดถึงไฝ่ฝันหา
เมื่อรักเลือนจากไปด้วยกาลเวลา
เหลือเพียงคราบของน้ำตาด้วยอาลัย
 

รักเธอมาก..มากเกิน..ใจจะเลือน
คงไม่เหมือนดั่งเดิมแล้วใช่ไหม
สองเรานั้นแสนห่างทั้งกายและใจ
ขอเป็นดั่งกระต่ายหมายจันทร์ต่อไปไม่ลบเลือน


ฝังใจ

เพราะเธอก้าวเข้ามา

เพราะเธอก้าวเข้ามา..
ปรับปรุงโครงสร้างแววตาที่เหงาเพ้อ
ตั้งศูนย์ถ่วงหัวใจที่เคยเอนไหวละเมอ
กรุทับด้วยวัสดุที่ไม่เคยเจอคืออุ่นไอ

ฉันจึงรักเธอ..
สถาปนิกผู้ทำคนเพ้อหายหวั่นไหว
วันนี้จะขอรับเหมาเฝ้าหัวใจ
อนุมัติดำเนินการได้ไหมแล้วจะทำโอทีให้ยี่สิบสี่ชั่วโมง

 เพราะเธอก้าวเข้ามา

ฝากรัก...กับราตรี

ได้ยินไหมในสายลมพรมสายฝน
เพลงปะปนส่งไปให้ฝันหวาน
เสียงแผ่วๆแว่วไปในราตรีกาล
กล่อมนงคราญให้หลับฝันยามนิทรา

หลับเถิดนะจะขับเพลงบรรเลงเฝ้า
หลับนะเจ้าพี่จะดูคู่ห่วงหา
หลับซะเถอะอย่าถือดื้อกานดา
ตัวพี่ยาจะกอดเจ้าเข้าฝันดี

ฝากเสียงเพลงแทนอุ่นไอไปโอบกอด
คำพร่ำพรอดแทนหมอนข้างวางตรงนี้
ฝากสายลมไปจุมพิตแก้มนารี
ให้เจ้ามีความฝันอันภิรมย์


ฝากรัก...กับราตรี

วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ความรัก....ที่นับได้?


ความรัก...ที่นับได้?

0 ตั้งใจจะนับดาวให้หมดฟ้า

เพื่อจะกลับไปบอกเธอว่าดาวมีมากเเค่ไหน

เริ่มตั้งเเต่ทุ่มตรง...นับไป..นับไป

เเต่ได้ยังไม่เท่าไหร่ก็ง่วงนอนเเสบตา



0 อีกคืนนึ่งจึงเปลี่ยนความตั้งใจเป็นนับทราย

เพื่อจะกลับไปบอกเธอให้ได้ว่า

มีทรายกี่เม็ดที่อยู่คู่ทะเลตลอดมา

เเต่นับยังไม่ถึงพันห้าก็ท้อใจ



0 เธอจะโกรธฉันหรือเปล่าที่เป็นคนเเบบนี้

ตั้งท่าซ่ะดีเเต่ที่สุดก็ทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ไม่เคยได้

ไม่มีความเก่งกล้าสามารถในการนับอะไร

นอกจากนับความรักของใจที่มีให้เธอ



ความรัก....ที่นับได้?

อาจมีบ้าง ที่น้อยใจ



เห็นเธอพร่ำร่ำร้องหาแต่รัก

น้อยใจนักทุกครั้งที่มาหา

บอกว่าเหงาบางครั้งเสียน้ำตา

พ ร ร ณ า ว่ า ทำ ไ ม เ ข า ไ ม่ แ ค ร์..ไ ม่ ใ ส่
ใ จ




ก่อนแรกรักไม่เห็นเป็นอย่างนี้

ทุกนาทีคอยดูแลห่วงหาเอาใจใส่

มาวันนี้ทำเฉยเมยไม่เข้าใจ

พ ร่ำ บ่ น ไ ป ร่ำ ร้ อ ง เ ค ล้ า น้ำ ต า



ได้แต่มองดูเธอนั้นร่ำร้อง

เฝ้าประคองปลอบขวัญซับน้ำตา

ได้แต่หวังให้เธอเขากลับคืนมา

ป ร า ถ ร น า ใ ห้ เ ข้ า ใ จ ใ น คื น วั น



ถึงบางครั้งจะแอบหวังในส่วนลึก

ความรู้สึกขัดแย้งในใจฉัน

แต่ไม่อาจทำร้ายจิตใจกันและกัน

ไ ด้ แ ต่ พ ร่ำ ป ล อ บ ข วั ญ เ ธ อ ใ ห้ ห า ย ต ร




นี้นะหรือที่เขาเรียกเป็นที่สอง

เป็นแค่รองไว้ปลอบยามระทม

ยามเขาสุขสนุกสมชื่นภิรมย์

ไ ร้ ค ว า ม ข ม แ ห่ ง รั ก ไ ม่ ชั ก พ า ม า ดู ใ




อาจมีบ้าง ที่น้อยใจ

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

แม้ยามฝัน มันก็คิดถึง

ได้เวลา เข้าสู่ นิทราแล้ว
โอ้ดวงแก้ว ใยเจ้า มาเข้าฝัน
เห็นเธอนั่ง ร้องไห้ ทำไมกัน
หัวใจฉัน รู้สึก ไม่ค่อยดี

เป็นอะไร หรือเปล่า อยากไปปลอบ
แม้ว่าเธอ ไม่ชอบ ฉันคนนี้
แต่ก็อด จะห่วง ไม่ได้สักที
ไม่อยากให้ เธอมี หยดน้ำตา

ฉันเป็นได้ แค่เพียง คนไกลห่าง
ได้แอบมอง เธอบ้าง ก็ดีนักหนา
แม้ว่าเธอ จะไม่ เคยมองมา
แต่ยังบ้า เป็นห่วง ได้ทุกคืน

ลุกจากเตียง หยิบภาพ เธอมาดู
รู้ทั้งรู้ ว่าใจ ต้องทนฝืน
เจ็บหัวใจ เจ็บจน ทนกล่ำกลืน
แต่ว่าใจ ไม่เป็นอื่น เพราะรักเธอ

อยากเป็นคน ที่เจ็บ แทนเธอบ้าง
คนไกลห่าง คนนี้ อยากเสนอ
ว่าให้เธอ โยนทุกข์ ที่ได้เจอ
มาให้คน ที่พล่าเพ้อ นั้นรับแทน

แม้ยามฝัน มันก็คิดถึง

สักวันหนึ่ง

สักวันหนึ่งน้ำตาจะหยุดไหล
อีกไม่นานอโณทัยจะฉายแสง
แผ่ไอร้อนอุ่นอุ่นไม่รุนแรง
ให้น้ำตามันเหือดแห้งไปเสียที

จะรอจนกว่าวันนั้นมันมาถึง
เหมือนอนึ่งพึ่งผ่านเมื่อวานนี้
อีกไม่นานฉันคงจะหายดี
ไม่นานปีฟ้าใหม่ใกล้เข้ามา



สักวันหนึ่ง

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อ้างว้าง



ถึงเเม้เธอจะอยู่ไกลเพียงไหน


เเต่หัวใจของเราไม่เคยห่าง


ถึงเเม้ว่าเธอนั้นจะอ้างว้าง


ฉันเคียงข้างกับเธอเสมอไป



อ้างว้าง

ลารัก


ลืมไม่ลง คงไม่ลืม เพราะใจรัก
เคยลองพัก
ให้หัวใจ หยุดหวั่นไหว
แต่ทำไม ใจยังรัก อยู่ร่ำไป
ยากสุดใจ จะหักห้าม
ปรามฤดี

แม้วันนี้ ใจยัง ต้องปวดร้าว
ดุจเเสงดาว ใกล้หริบหรี่
แทบดับลง
แต่หัวใจ หนอทำไม ยังมั่งคง
รักไม่ปลง เหมือนจมปลัก
ไม่หักใจ

ร้าวฤทัย ใจห่วง แนบดวงจิต
รักเคยชิด สนิทใจ
มาห่างหาย
สุดเสียดาย ที่รัก ต้องมลาย
มาห่างหาย ลารัก ชั่วนิรันดร์



ลารัก

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

.. ในความคิดถึง ..



- เกือบจะลืมได้แล้วสินะ -

มันผ่านไปนานแล้วหละ .. กับเรื่องราวในวันนั้น

การที่คนอ่อนไหวสองคนมาพบกัน

สุดท้าย .. ก็จบลงด้วยเวลาอันสั้น .. ก่อนที่ชีวิตในความฝัน

- จะไม่เป็นดั่งละคร -

 




- แอบแปลกใจอยู่บ้างเหมือนกันเวลาเหงา -

คล้ายยังมองเห็นภาพเก่า~เก่า คอยส่งยิ้มหวานเบา~เบา มาออดอ้อน

ทั้งที่บอกกับตัวเองเสมอ ว่าไม่มีเธอสักตอน

แต่ทำไมทุกครั้งยามสายตาล้าอ่อน .. ยังคงฝันถึงเธอ

 




.. ในความคิดถึง ..

ถ้ารักต้องกล้าบอกว่ารัก



บางคำ...ที่ควรพูดออกไป

บางคำ...ที่ต้องสื่อด้วยใจคงมั่น

บางคำ...พอเอ่ยออกมาเพื่อกันและกัน

บางคำนั้น...จะฝังแน่นอยู่ในหัวใจ



ถ้ารักต้องกล้าบอกว่ารัก

บางอารมณ์



บางอารมณ์ บนดินแดนแสนประหลาด

บางอารมณ์ วิปลาสละเหี่ยหลาย

บางอารมณ์ สมจิตชิดมิวาย

บางอารมณ์ วอดวายร้ายเกินคน



โอ้มนุษย์ผุดว่ายหน่ายหรือไม่

เหตุอันใดดลลิขิตผิสับสน

ท้ายสุดหยุดยื้อถือผจญ

พ้นวังวนเวียนทุกข์ด้วยสุขจินต์ (สาธุฯ)


 




บางอารมณ์

คนเจ้าน้ำตา



ฉันมันก็แค่...คนอ่อน...คนเจ้าน้ำตา

เธออาจมองว่าแข็งแกร่งหนักหนาที่เข้าใจ

แม้นเวลาผ่านไปนานสักเพียงไหน

ก็ยังไม่อาจลืมเธอได้...อยู่กับใจที่มีแต่...น้ำตา



ป่านนี้......เขา.........คง.........มีใครสักคน.....ที่ดี



..........ฉันก็แค่........คนเจ้าน้ำตา...................



คนเจ้าน้ำตา

แค่...คนงมงาย



ยังหยุดยืนอยู่ที่เก่า

อยู่อย่างเหงาๆ สั่นไหว

ที่ตรงนี้.. ไ ม่ เ ห ลื อ ใ ค ร

นอกจากหัวใจ มืดมน





ในคืนหนึ่ง ที่ข้ามผ่าน

ฉันทำรักไหวหวาน ร่วงหล่น

หายไปกับความเงียบอย่างทุกข์ทน

จึงยังรอบางคน...ที่หายไป





เฝ้ารอ..และ..เฝ้ารอ

มีอดีตเลี้ยงหล่อ แต่ร้าวไหว

แม้แสนทรมาน จะ ร อ ต ล อ ด ไ ป

ไม่จำเป็นต้องสนใจ...

........ฉันก็แค่ใคร ที่ " ง ม ง า ย "



แค่...คนงมงาย

..สุสานหัวใจ...



เขียนถึงความรักและคิดถึงสักหน่อย



เดี๋ยวกลอนกร่อยเรื่องราวแต่เศร้าๆ



นี่ซินะความภักดีที่ไม่เคยลืมเรื่องราว



ที่สองเราเคยร่วมสร้างมาด้วยกัน





ในคืนหนึ่งฉันนั่งฟังเพลงๆหนึ่ง



เพราะเธอคือรักที่ส่งมาถึงฉันจำได้ไหม



ช่างเป็นคืนที่เหงาและเดียวดาย



และน้ำตาฉันก็เริ่มรินไหลออกมา





ฝากบทกลอนห้องนี้เผื่อไว้ให้เธอคนนั้น



หากค้นหาคนผิงดาวสักวันอาจได้เห็น



เรื่องราวที่ผ่านมายังติดตาทุกเช้าเย็น



เพียงอยากให้เธอเห็นคุณค่า...ของหัวใจ





อยากนำทุกอย่างที่หัวใจฉันคิดถึง



ที่ตราตรึงเรื่องราวมาฝังไว้ตรงนี้



เป็นสุสานหัวใจคนแพ้พ่ายในรักนะคนดี



ช่วยกลบดินในตรงนี้...เป็นสุสานของหัวใจ



............................................................



..สุสานหัวใจ...

..สุสานหัวใจ...



มีแค่ภาพความหลังที่ฝังใจ



ขอให้เก็บเธอไว้ในสุสานหัวใจในตอนนี้



ขอฝังรักที่มีต่อเธอตราบชั่วชีวิตที่มี



ขอให้ที่ตรงนี้เป็นสุสานของหัวใจ





ภาพเก่าๆที่เราเคยเคียงคู่



เพลงรักที่ฟังดูแล้วซึ้งยังคงอยู่ไม่รู้หาย



แต่วันนี้ไม่มีเธอร่วมฟังด้วยหัวใจ



ขอให้บันทึกที่ผ่านเรื่องราวมากมาย...เป็นสุสานหัวใจเรา



...................................................................



        รักและคิดถึงเธอเสมอ...



..สุสานหัวใจ...

อยู่ตรงไหนของความรัก



อยู่ตรงไหน,,ของหัวใจ

คนที่เธอห่วงใย คงไม่ใช่ฉัน

กับคนที่เธอไม่ให้ความสำคัญ

จะมาทำดีต่อกัน เพื่ออะไร



อยู่ตรงไหน,,ของความรัก

ตอนนี้หัวใจมันล้าหนัก แล้วรู้ไหม

คนคิดมาก อยากให้เธอเข้าใจ

ถ้าไม่รัก ขอร้องว่าอย่ามาใกล้ กันอีกเลย






 




อยู่ตรงไหนของความรัก

๐ สื่อบายศรีบรรสานสรวง ๐..(ส่งกําลังใจสู่สาม จ.ว ชายแดนใต้)



สื่อบายศรีบรรสานสรวง ๐



๐ ประจงจีบกลีบตองโดยสองมือ

บายสีสื่อสวรรค์ขึ้นบรรสาน

ธูป-เทียนแพบําบวงพร้อมพวงมาลย์

เถิดประทานหรรษาสถาพร



๐ ขออํานาจศักดิ์สิทธิ์สัมฤทธิ์ผล

ทั่วสากลจรัสประภัสสร

ทอประกายแสงธรรมคํ้านาคร

จงริดรอนเพทภัยจัญไรปวง



๐ ด้วยกาลนี้ขวานทองนั้นหมองแล้ว

ไร้วี่แววโอบแขนอันแหนหวง

สิ้นแล้วซึ่งรอยรักเพื่อทักท้วง

ต่างยาตรารุดล่วงเข้าช่วงชิง



๐ ทุกทิศาบรรลุแต่ทุรยศ

ซากสลดหดหู่ก็สู่สิง

คลุ้งคาวเลือดทะลักที่พักพิง

จะหาสิ่งยึดเหนี่ยวก็เปลี่ยวกาย



๐ กี่ดวงจิตพิสุทธิ์ต้องหลุดลอย

ทั้งลูกเล็กเด็กน้อยก็พลอยหาย

ยังมิรู้เดียงสาก็มาตาย

ด้วยนํ้ามือมารร้าย..นรชน



๐ นอนสะดุ้งทุกครั้งที่ยังหลับ

เมื่อประทับแต่ผองความหมองหม่น

เฝ้าวิงวอนใดประทุษขอหลุดพ้น

อย่าเห็นคนสิ้นศักดิ์เช่นผัก-ปลา



๐ อนาเขตด้ามขวานร้าวรานนัก

เถอะหยุดพักอวดโอ้ไฟโทษา

ทุกชีวิตปลาบปลื้มได้ลืมตา

ไยเข่นฆ่ากันเล่า..เหล่าทรพี



๐ คุณข้าวแดงแกงร้อนให้ย้อนนึก

ตรองรู้สึกให้หนักเป็นสักขี

ถิ่นอาศัยโรมรันทุกวันนี้

มิใช่พระบารมี..ฤๅอย่างไร



๐ อยู่บนแผ่นดินทองของพระองค์

พระผู้ทรงสูงยิ่งกว่าสิ่งไหน

แล้วไล่ฆ่าประชาราษฏท่านทําไม ?

ฤๅว่าใจจะขอทรยศ



๐ จึงวิงวอนอํานาจแห่งชาติสรวง

ด้วยเครื่องบวงมาลีบายศรีสด

ล้างเผ่าพันธุ์ใดผิดผู้คิดคด

ปราบกบฏให้สิ้นแผ่นดินไทย

...............

 



๐ สื่อบายศรีบรรสานสรวง ๐..(ส่งกําลังใจสู่สาม จ.ว ชายแดนใต้)

น้ำตาแดนสะตอ



น้ำตาแดนใต้ไหลอีกครา

น้ำไหลบ่าป่าลั่นสนั่นไหว

หอบน้ำโคลนทะลักทั่วแดนใกล้ไกล

เกินต้านไหวภัยอุทกเข้าปกคลุม



ฤดูกาลผิดแผกแปลกยิ่งกว่า

ราวกับว่าแลเห็นเช่นมรสุม

พลังธรรมชาติที่ดำเนินเกินควบคุม

มิโอบอุ้มนุ่มนวลอย่างควรเป็น



พี่น้องเอ๋ยจงอย่าท้อขอให้สู้

โปรดรับรู้กำลังใจมีให้เห็น

แม้จำอยู่ด้วยลำบากแสนยากเย็น

แต่ยังเห็นว่าไทยไม่ทิ้งกัน



ธารน้ำใจไหลตรงลงใต้เถิด

สิ่งประเสริฐคือไทยอย่าไหวหวั่น

เลือดสะตอจงอดรนทดกัดฟัน

พรุ่งนี้นั้นฝนคงซาฟ้าคงงาม









 




น้ำตาแดนสะตอ

เหนื่อยไหม ^_^



.งานยุ่งไหมวันนี้...

ดูแลตัวเองบ้างคนดี...ห่วงรู้ไหม

เพราะไม่ได้อยู่ดูแลเธอใกล้-ใกล้

คิดถึงทุกลมหายใจที่มี



หากวันใดเธออ่อนล้า

หยิบโทรศัพท์โทรหานะคนดี

แม้ตัวอยู่ไกล...แต่กำลังใจมีให้เต็มที่

ทุกนาทียินดีให้เธอ

..ในนามของความห่วงใย..



ในนามของความห่วงใย



ในนามของความคิดถึงจากหัวใจใครคนหนึ่ง



ที่ดูเพ้อฝันอย่างสุดซึ้ง



ฝากถึงคนหนึ่งในดวงใจ





บางคืนฟ้ามีดาวกระจ่างกลางคืนหนาว



ระยิบพราวด้วยแสงแห่งความหวัง



ดาวเรียงร้อยฉันอยากฝากเป็นถ้อยคำ



แขวนไว้ที่ปลายฟ้าตรงนั้น...ว่าฉันนั้นห่วงใย





...................................................



..ในนามของความห่วงใย..

กลอนประชดรัก



เพราะฉันดีเกินไป

เธอจึงมองใครที่เลวกว่าฉัน

ชอบคนเลวๆใช่ไหมคนผูกพัน

ทำไมไม่บอกกันหลงทำดีอยู่ตั้งนาน


 


กลอนประชดรัก

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

..ในนามของความห่วงใย..

อยู่สบายดีหรือเปล่า
ไม่ได้ส่งข่าวนานแล้วหนา
วันนี้รู้สึกดีที่เธอส่งข่าวมา
ทำให้รู้ว่าเธออยู่สุขสบาย



ได้แต่ห่วงใยอยู่ห่างๆ
กลัวคนข้างๆ เขาจะสงสัย
ณ ตอนนี้ไม่อยากให้เธอเสียใจ
แค่ได้ส่งความห่วงใยไปให้ก็พอ

..ในนามของความห่วงใย..

..ในนามของความห่วงใย..



ในนามของความห่วงใย



ในนามของความคิดถึงจากหัวใจใครคนหนึ่ง



ที่ดูเพ้อฝันอย่างสุดซึ้ง



ฝากถึงคนหนึ่งในดวงใจ





บางคืนฟ้ามีดาวกระจ่างกลางคืนหนาว



ระยิบพราวด้วยแสงแห่งความหวัง



ดาวเรียงร้อยฉันอยากฝากเป็นถ้อยคำ



แขวนไว้ที่ปลายฟ้าตรงนั้น...ว่าฉันนั้นห่วงใย

 




..ในนามของความห่วงใย..

กลอนอกหักสั้นๆ#msg20923



จะให้รักเธอได้อย่างไร

ในเมื่อใจเธอยังไม่ลืมเขา

ไม่มีอีกแล้วใช่ไหมคำว่าเรา

ถ้าหากเธอรักเขาก็เดินจากกันไปได้เลย



กลอนอกหักสั้นๆ#msg20923

กลอนอกหักสั้นๆ



หนาวหัวใจวันไร้เธอ

ใจหนึ่งก็เพ้ออีกใจหนึ่งก็ฝัน

ความรักของเรามันต่างกัน

ยามเธอกอดฉันเหมือนเธอกอดใครอีกคน



กลอนอกหักสั้นๆ

กลอนรักสั้นๆน่ารักๆ#msg621


***กลอนจีบ***





เกิดมาหลายปี

พึ่งเจอวันนี้ คนที่ใช่

รู้ว่าอาจเร็วไป

แต่หัวใจ ก็รักจริง







* + * + * + * + * + * + * + *



กลอนรักสั้นๆน่ารักๆ#msg621

กลอนรักสั้นๆน่ารักๆ#msg20739



รักนะคนดี

ที่ตรงนี้เธอยังมีฉัน

หากเธอเศร้าให้คิดถึงกัน

เธอยังมีฉันรออยู่ตรงนี้อีกทั้งคน



กลอนรักสั้นๆน่ารักๆ#msg20739

คําคม ... คํารัก












ถ้าคุณตกอยู่ในห้วง..ความรัก!! คลิก





ถ้าคุณกำลังแอบรักใครอยู่...คลิก





ถ้าคุณกำลังห่วงใยใครสักคนอยู่...คลิก





ถ้ากำลังคิดถึงใครสักคนอยู่ คลิก






ถ้าคุณอยากบอกเลิกใครสักคน...คลิก





ถ้าคุณกำลังเศร้า อกหัก เสียใจ... คลิก






ถ้าคุณอยู่ในอารมณ์ประชดประชัน...คลิก




 




รวมคำคมขำๆฮาๆ คลิก




รวมคำคมเจ็บๆคันๆ โดนใจ  คลิก




รวมคำคม
ท้ายรถสิบล้อ เด็ดๆ  คลิก





คำคม คำรัก





No man/woman is worth your tears and the only one who is,

will never make you cry.

ไม่มีชายหรือหญิงคนไหนมีค่าพอที่คุณจะต้องเสียน้ำตาให้

ส่วนคนที่มีค่าพอนั้น

เขาย่อมที่จะไม่มีวันทำให้คุณร้องไห้อย่างเด็ดขาด









If you love someone,

put their name in a circle,

instead of a heart,

because hearts can break,

but circles go on forever.

ถ้าคุณรักใครสักคน

จงเอาเขาไว้รอบตัวคุณแทนที่จะใส่เขาไว้ในใจ

เพราะหัวใจสามารถแตกสลายได้

แต่ถ้าเขาอยู่รอบตัวคุณ เขาจะอยู่กับคุณตลอดไป




 



 




คําคม ... คํารัก

บทความที่ได้รับความนิยม